เมื่อพูดถึงกล้อง Action Camera ที่เป็นกระแสมาแรงในตอนนี้ คงหนีไม่พ้น ‘GoPro Hero 8 Black’ ที่อัดแน่นมาด้วยคุณภาพที่ทาง GoPro ได้พัฒนามาให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านดีไซน์, สเปค และฟีเจอร์อีกเพียบ มาดูกันว่ากล้อง GoPro Hero 8 Black นี้มีโหมดการใช้งานอะไรบ้าง และถ่ายออกได้น่าสนใจมากขนาดไหน
สเปคเด่นของกล้อง GoPro Hero 8 Black ...
● ภาพถ่ายความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
● ถ่ายวีดีโอความละเอียดสูงสุด 4K 60fps หรือ 1080p 240fps ในอัตราบิตเรทสูงถึง 100Mbps
● ถ่าย Slo-Mo 8x
● HyperSmooth 2.0
● TimeWarp 2.0
● LiveSteaming ด้วยความละเอียดสูงถึง 1080p
● Horizon Leveling ทำให้เส้นขอบฟ้าในวิดีโอตรงเสมอแม้กล้องจะเอียงผ่าน GoPro Application
● LiveBurst 30 ภาพต่อวินาที
● SuperPhoto+HDR เก็บรายละเอียดภาพได้ดี
● Digital Lens 4 มุมมอง
● รองรับการสั่งงานด้วยเสียง
● รองรับหน้าจอสัมผัส
● กันน้ำสูงถึง 10 เมตร
เริ่มกันที่หน้าตาของกล้อง GoPro Hero 8 Black ดูจากดีไซน์แล้วจะเห็นได้ว่าตัวบอดี้เป็นทรงสี่เหลี่ยมเล็ก สีดำพรีเมี่ยม ทำจากวัสดุอะลูมิเนียม ทำให้กล้องรุ่นนี้มีความถึก ทน กว่าเดิม แต่มีน้ำหนักที่เบาลง จับได้ถนัดมือมากยิ่งขึ้น ขอบด้านข้างหุ้มด้วยยางรอบด้าน และส่วนที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัด รุ่นนี้มีเพิ่ม Folding Finger เข้ามา สามารถต่อเข้ากับอุปกรณ์ขาตั้งกล้องได้ทันที โดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์เสริมต่างๆ
GoPro Hero 8 Black ได้ย้ายไมค์หลักมาไว้ด้านหน้า เพื่อให้รับเสียงในขณะที่ถ่ายอยู่ได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Vlog, LiveSteaming หรือ ถ่ายภาพวิดีโอ รวมไปถึงแบตเตอร์รี่ถูกย้ายมาด้านข้าง และมีช่องสำหรับชาร์จแบบ USB-C ทำให้เราสามารถชาร์จแบตและถ่ายไปพร้อมกันได้ตลอดเวลา ไร้ปัญหาเรื่องแบตหมดระหว่างถ่าย
กล้องแอคชั่นแคมรุ่นนี้มาพร้อมระบบกันน้ำได้ลึกสูงถึง 10 เมตร ทำให้คุณใช้งานได้เต็มที่ไร้กังวล ลุยไปกับคุณได้ทุกที่ แต่ถ้าอยากลุยไปมากกว่านี้หรือปกป้องกล้องกันมากกว่านี้สามารถใส่ Housing เข้ามาเสริมพลังความถึก ทน ได้
สำหรับเรื่องของการใช้งาน ถือว่า GoPro Hero 8 Black นี้ใช้งานได้ง่ายมาก เพราะมีระบบหน้าจอ Touchscreen ทำให้เราสามารถเลื่อนปัดหน้าจอดูภาพหรือวิดีโอที่เราถ่ายมา ปรับเปลี่ยนโหมดได้อย่างอิสระ ซึ่งรุ่นนี้มีฟีเจอร์เด็ดที่สามารถสร้าง Shortcut Key บนหน้าจอขึ้นมาเองได้ เราสามารถตั้ง On screen shortcut ที่เราใช้บ่อยๆ ไว้ที่มุมซ้ายและมุมขวาได้ด้วย แถมยังมีแสดงเส้น Grid ระหว่างพรีวิวด้วย เพื่อให้เราจัดองค์ประกอบง่ายขึ้น รวมถึงมีปุ่ม Quick mode และ สั่งงานด้วยเสียงได้อีกด้วย
GoPro Hero 8 Black รุ่นนี้มาพร้อมกับความละเอียดสูงถึง 12 ล้านพิกเซล ที่ให้ความละเอียดได้ดี และยังรองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดได้สูงถึง 4K 60fps, 1080p 240fps สามารถทำงานได้ดีในที่แสงน้อย และแน่นอนว่าความละเอียดนี้จะทำให้เราได้ไฟล์คุณภาพดี รายละเอียดสวยงาม ทั้งไฟล์ JPG และ RAW
ในส่วนของการถ่ายวิดีโอสามารถบันทึกด้วยอัตราเฟรมเรตถึง 60 เฟรมต่อวินาที ซึ่งช่วยให้วิดีโอของเราไหลลื่นได้ดี และสามารถนำมาใช้กับการทำวิดีโอแบบ Slow Motion ได้อย่างสวยงาม ด้วยความละเอียดคมชัดสูงระดับ 4K รวมถึงยังเพิ่มความสามารถในการบันทึกวิดีโอแบบ HEVC ได้ที่ความละเอียดสูงถึง 100 Mbps รองรับการใช้งานระดับโปรดักชั่น ให้วิดีโอที่ถ่ายมีความคมชัดและรายละเอียดครบถ้วนสวยงาม ใกล้เคียงสายตาเรามากที่สุด
มาต่อกันที่ฟีเจอร์ของกล้อง GoPro Hero 8 Black ที่ช่วยให้นักถ่ายวิดีโอมือใหม่ใช้งานได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น อย่างการตั้งค่า Preset วิดีโอต่างๆ ที่เราใช้งานบ่อยไว้ล่วงหน้า เพื่อปรับเปลี่ยนได้ทันทีตามสถานการณ์นั้นๆ เราสามารถตั้งค่าได้ถึง 10 แบบ ทำให้สาย Vlog หรือสายวิดีโอที่ทำงานคนเดียว สร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจได้
โดยมีโหมด Standard ถ่ายพื้นฐาน, Activity ถ่ายกิจกรรมเอ็กซ์ตรีม, Slo-Mo ถ่ายภาพช้า และ Cinematic ถ่ายหนัง เป็นต้น ซึ่งแต่ละโหมดจะมีการตั้งค่าต่างๆ มาให้สำเร็จรูป หรือเราสามารถเข้าไปปรับเปลี่ยนเลือกได้ตามใจต้องการ
เป็นที่รู้กันว่ากล้อง GoPro นี้มีระบบกันสั่น ‘HyperSmooth’ ขั้นเทพ ซึ่งครั้งนี้ก็ถูกพัฒนาขึ้นอีกขั้นเป็น HyperSmooth 2.0 ที่ช่วยให้ถ่ายวิดีโอได้นิ่งขึ้นกว่าเดิม สามารถกันสั่นได้ทุกความละเอียดและทุก Frame Rate ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอที่มีความละเอียดสูงอย่าง 4k 60Fps หรือ 1080 240Fps ช่วยให้วิดีโอ Slow Motion ของคุณดูสมูท แต่ถ้าเราถ่ายวิดีโอไปแล้วยังรู้สึกว่านิ่งไม่พอ ทาง Gopro ยังเพิ่ม HyperSmooth Boost เข้ามา เพื่อเพิ่มพลังกันสั่นโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริม และยังรองรับการถ่ายวิดีโอ Slow motion ได้ช้าลงถึง 8 เท่าจากความเร็วปกติที่ความละเอียด 1080 240Fps
Clip Vdo ‘HyperSmooth’
และอีกหนึ่งฟังก์ชั่นยอดฮิต Time Warp ที่ช่วยให้เราสามารถสร้างวิดีโอแบบไทม์แลปส์ได้อย่างง่ายดาย ซึ่ง Gopro Hero 8 Black ก็ได้ถูกอัพเกรดขึ้นมาเป็น TimeWarp2.0 เช่นกัน มาพร้อมกับความสามารถในการประมวลผลที่จะวิเคราะห์และเลือกค่าความเร็วที่เหมาะสมให้กับวีดีโอของคุณโดยอัตโนมัติ และยังสามารถปรับความเร็ว TimeWarp แบบ RealTime ได้อีกด้วย โดยการแตะที่หน้าจอเพื่อให้กล้อง GoPro บันทึกที่ความเร็วปกติระหว่างถ่าย TimeWarp และแตะอีกครั้งเพื่อกลับเข้าสู่โหมด TimeWarp อย่างต่อเนื่อง เป็นวิดีโอเร็วสลับช้าได้เลย ไม่ต้องใช้โปรแกรมตัดต่อช่วย ฟังก์ชั่นนี้น่าจะถูกใจสาย Vlog หรือคนที่ชื่นชอบการถ่ายวิดีโอนี้อย่างแน่นอน
Clip Vdo ‘Time Warp’
Gopro Hero 8 Black มีฟังก์ชั่นเข้ามาใหม่ที่เพิ่มความน่าสนใจให้กับวิดีโอของเรา นั่นคือโหมด Nightlapse ที่จากเดิมโหมดนี้เราสามารถถ่ายได้เพียงรูปเท่านั้น ตอนนี้เราสามารถตั้งค่าออกมาเป็น VDO Nightlapse ได้แล้ว โดยกล้องจะตั้งค่าที่เหมาะสมให้กับเราเอง ไม่ว่าจะตั้งกล้องถ่ายดาว ท้องฟ้า หรือถ่ายท้องถนนที่มีแสงไฟจากรถยนต์ ก็สามารถถ่ายได้อย่างง่ายๆ
ในครั้งนี้ GoPro Hero 8 Black ก็ได้เพิ่มมุมมองการถ่ายภาพถึง 4 มุมมอง ปกติแล้วเวลาใช้ GoPro ภาพถ่ายที่ออกมาจะเป็นมุม Wide ที่มีความโค้งของเลนส์เป็นเอกลักษณ์ของ GoPro แล้ว รุ่นนี้ยังได้เพิ่มมุม Narrow ช่วงเทียบเท่ากับ กล้องถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟนทั่วไป, มุม Linear ปรับมุมมองภาพให้ไม่มีการบิดเบี้ยวของเลนส์ กับมุม Super Wide ที่กว้างเป็นพิเศษ เอาไว้เก็บบรรยากาศสวย ๆ เวลาที่เราไปเที่ยว โดยทั้งหมดนี้เราสามารถเลือกตามความต้องการและความเหมาะสมได้เลย
มุม Narrow
มุม Linear
มุม Wide
มุม SuperView
ในส่วนของภาพนิ่ง Hero 8 Black ก็ทำได้ดีไม่แพ้วิดีโอ แถมยังมีโหมดยอดฮิตอย่าง SuperPhoto ที่ช่วยให้เราได้ไฟล์ภาพที่ดียิ่งขึ้น โดยปรับตั้งค่าให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมนั้น เก็บภาพได้ทั้งที่สว่างและที่แสงน้อย ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายใต้น้ำหรือบนบก ซึ่งสำหรับ Hero 8 Black นี้สามารถถ่ายภาพได้รวดเร็ว ไม่เกิดภาพซ้อนครับ และยังมีโหมด HDR เพิ่มเข้ามาให้ภาพของเราคมชัดขึ้นอีกด้วย
ไม่พลาดช่วงเวลาที่สำคัญ กับฟังก์ชั่นอัจฉริยะ LiveBrust ช่วยบันทึกภาพก่อนกดชัตเตอร์ 1.5 วินาที และหลังกดชัตเตอร์ 1.5 วินาที รวมทั้งหมด 90 ภาพ เพื่อให้เราได้ช็อตที่ดีที่สุดในการถ่ายรูป
นอกจากนี้เรายังเชื่อมต่อกล้องกับสมาร์ทโฟนได้อย่างง่ายด้วย GoPro App ที่ให้เราดาวน์โหลดรูปหรือวิดีโอมาลง social อวดรูปสวยๆ และยังสั่งการควบคุมกล้องได้อย่างอิสระผ่านแอพพลิเคชั่นได้เลย ซึ่งครั้งนี้ GoPro App ได้มีการอัพเกรดแอพพลิเคชั่นให้สามารถตัดต่อวิดีโอได้เลย ไม่ว่าจะเป็นใส่เพลง ใส่เอฟเฟค และลูกเล่นอื่นๆ อีกมากมาย
รวมถึงเราสามารถแก้ไขวิดีโอใน GoPro App ด้วยฟังก์ใหม่ Horizon Leveling ที่ช่วยรักษาระดับเส้นขอบฟ้าให้กับวิดีโอของคุณ ซึ่งสามารถใช้งานได้ง่ายๆ โดยเราสามารถนำฟุตเทจวิดีโอที่บันทึกไว้เรียบร้อยแล้วเลือกแก้ไขวิดีโอได้ในแอพลิเคชั่นได้ทันที
อีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่พลาดไม่ได้สำหรับชาวโซเชียลก็คือกล้อง HERO8 Black นี้สามารถ Live Streaming ผ่าน GoPro App ได้เลย ด้วยความละเอียดคมชัดสูงถึง 1080 Full HD เพื่อแชร์โมเมนท์ดีๆ สุดประทับใจให้กับเพื่อนๆ ในโลกโซเชียลได้ทันที ไม่ว่าจะแชร์ลง facebook ส่วนตัว, facebook fanpage หรือ youtube ก็สามารถทำได้
กล้อง GoPro Hero 8 Black เป็นกล้องแอคชั่นแคมอีกรุ่นที่น่าสนใจสำหรับสายชอบถ่ายวิดีโอหรือสายกีฬาเอ็กซ์ตรีม ซึ่งรุ่นนี้อัดแน่นมาด้วยคุณภาพ พร้อมทั้งยังมีโหมดใช้งานสำเร็จรูปมากมาย แม้จะเป็นมือใหม่ก็สามารถสร้างสรรค์วิดีโอแบบมืออาชีพได้เช่นกัน สามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ GoPro HERO8 (Black) ในราคาเพียง 14,500 บาท