มีคำถามสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเข้าร้านกล้อง อาจจะเจอเลนส์หลายตัววางเรียงรายละลานตามากมาย แต่พอสังเกตดูราคาแล้วพบว่า เลนส์แต่ละตัวนั้นราคาไม่เท่ากัน บางตัวก็ราคาไม่แพงนัก ส่วนบางตัวก็ราคาพอๆกับรถเก๋งเลย วันนี้เรามาดูกันว่าเหตุผลอะไรที่เลนส์แต่ละตัว ราคาไม่เท่ากันบ้าง
1. คุณภาพของชิ้นเลนส์
เป็นเหตุผลแรกที่ทำให้ราคาของเลนส์ต่างกัน เพราะคุณภาพของชิ้นเลนส์ที่ถูกผลิตขึ้นนั้นจะส่งผลต่อภาพที่ได้ เลนส์ที่มีความใสสว่าง มีการเคลือบผิวเพื่อป้องกันแสงสะท้อนแบบพิเศษ รวมไปถึงชิ้นเลนส์พิเศษต่างๆที่เรามักได้ยินกันบ่อยๆ เช่น ชิ้นเลนส์ ED , ชิ้นเลนส์ Aspherical เหล่านี้ มีขั้นตอนการผลิตที่ยุ่งยาก แต่ก็สามารถถ่ายทอดสีสัน ความคมชัด และให้คุณภาพที่เหนือกว่า ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น จึงทำให้เลนส์ในช่วงระยะเดียวกัน รูรับแสงก็เหมือนกัน แต่ราคาถูก-แพงต่างกัน ดังนั้นการเลือกเลนส์ที่คุณภาพสูง ราคาแพง ก็จะช่วยให้ได้ภาพที่คมชัด ไม่มีปัญหาเรื่องแสง Flare , Ghost หรือขอบม่วง นั่นเอง เพราะขนาดฟิลเตอร์ดีๆแค่ชิ้นเดียวก็ยังราคาหลักพันแล้ว พอเป็นเลนส์ทังตัว ราคาที่สูงขึ้นก็ไม่น่าแปลกใจ
2. จำนวนและขนาดชิ้นเลนส์ที่ใช้
จำนวนเลนส์ที่ใช้ก็มีผลต่อเรื่องราคาเหมือนกัน จะสังเกตได้ว่าหากเลนส์ตัวใดมีชิ้นเลนส์จำนวนมากก็จะมีราคาแพงกว่าเลนส์ที่ใช้ชิ้นเลนส์น้อยกว่า ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เพราะต้นทุนของชิ้นเลนส์ต้องมีมากกว่า โดยเฉพาะเลนส์ประเภทเลนส์มุมกว้าง หรือเลนส์เทเลโฟโต้ จะมีชิ้นเลนส์จำนวนมากเพื่อบังคับแสงให้ได้ตามการออกแบบ เช่น เพิ่มชิ้นเลนส์เพื่อลด Distortion หรือมีชิ้นเลนส์หลายชิ้นสำหรับการซูม รวมถึงการที่เลนส์เหล่านี้มีหน้าเลนส์ใหญ่เพื่อรองรับแสงเข้าสู่ชิ้นเลนส์ ได้ดี ในเลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างมากๆ ทำให้เลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสกว้างหรือเลนส์ทางยาวโฟกัสสูงมีราคาต่างจากเลนส์ระยะช่วงกลางๆ
3. รูรับแสง
ขนาดรูรับแสงก็มีส่วนในเรื่องของราคาเช่นกัน เพราะการที่เลนส์มีรูรับแสงกว้างมากขึ้น ผู้ผลิตเลนส์จำเป็นต้องออกแบบเลนส์ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น และต้องอาศัยเทคโนโลยีที่มีขั้นตอนการผลิตที่ยุ่งยากมากขึ้นเพื่อให้เลนส์มีความคมชัด ราคาของเลนส์จึงแพงขึ้นตามไปด้วย ยิ่งเลนส์ประเภทเลนส์ซูมที่มีค่ารูรับแสงคงที่ หรือเลนส์เทเลโฟโต้รูรับแสงกว้าง จะมีชิ้นเลนส์จำนวนมาก และมีขนาดชิ้นเลนส์ใหญ่ รวมถึงมีการใช้ชิ้นเลนส์พิเศษเพื่อลดการหักเหหรือสะท้อนของแสงให้ได้ตามที่ต้องการ ยิ่งมีราคาแพง เพราะต้องใช้เทคโนโลยีการผลิตสูงกว่านั่นเอง แค่ที่แลกมากับเงินที่จ่ายไปก็คือได้เลนส์ที่ใช้งานสะดวก สามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดี รวมถึงยังละลายฉากหลังสร้างมิติของภาพได้โดดเด่นจากการใช้รูรับแสงกว้าง
4. ฟีเจอร์ต่างๆของเลนส์เพิ่มเติม
สิ่งที่ทำให้เลนส์แต่ละตัวราคาถูก-แพงต่างกันอีกอย่างก็คือเรื่องของฟีเจอร์หรือระบบการทำงาน รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆที่ใส่มาในเลนส์ เช่น ระบบโฟกัสภาพที่รวดเร็วแม่นยำ หรือเลนส์ที่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว จะมีราคาสูงกว่าเลนส์อีกตัวที่ไม่มีฟีเจอร์พิเศษเหล่านี้ เพราะแน่นอนว่าการที่ทางผู้ผลิตใส่เทคโนโลยีหรือระบบการทำงานเพิ่มเติมมาให้ในเลนส์ ต้นทุนก็จะสูงขึ้น แต่ก็ช่วยอำนวยความสะดวกกับผู้ใช้งานที่ต้องแลกมาด้วยจำนวนเงินที่จ่ายไป ดังนั้นหากเข้าไปเลือกซื้อเลนส์แล้วเห็นราคาที่แตกต่างกันในแต่ละรุ่น ก็ไม่ต้องแปลกใจ มันมีเหตุผลของราคาที่ต่างกันอยู่
5. แบรนด์และ ความน่าเชื่อถือ
สุดท้ายกับเรื่องของยี่ห้อหรือแบรนด์นั่นเอง นับรวมไปถึงเรื่องคุณภาพ ความน่าเชื่อถือด้วย เพราะปัจจุบันเลนส์แต่ละยี่ห้อแต่ละค่ายนั้น ต่างก็มีจุดเด่นเป็นของตัวเอง ผู้ผลิตเลนส์แบรนด์ต่างๆก็จะมีเทคโนโลยีและการสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ แม้ว่าเลนส์ของทางผู้ผลิตกล้องเองมักจะมีราคาสูงกว่าเลนส์จากทางผู้ผลิตเลนส์อิสระยี่ห้อต่างๆ แต่เลนส์บางแบรนด์ก็แพงกว่าของผู้ผลิตกล้องอีกเช่น เลนส์ Zeiss เป็นต้น รวมไปถึงการแบ่งเกรดเลนส์ออกมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานเช่น เลนส์ GMASTER ของ Sony , เลนส์ L ของ Canon หรือเลนส์ ART ของ SIGMA ล้วนเป็นเลนส์เกรดโปรที่ให้คุณภาพสูง เป็นเลนส์สร้างชื่อของแบรนด์นั้นๆ จึงมีราคาแพง หรือเลนส์บางตัวที่เป็นของสะสมก็จะมีเรื่องราวที่ผ่านมาในอดีต อย่างเช่นเลนส์ Leica หลายๆตัวที่ราคาเป็นหลักล้านบาท เพราะผลิตได้น้อย ใช้ฝีมือของช่างทำเลนส์ในการขัดฝนด้วยมือ จนได้เลนส์ที่ให้ภาพที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว เป็นต้น