ประกาศราคาวางจำหน่ายพร้อม Pre-Order อย่างเป็นทางการไปแล้วเรียบร้อย สำหรับกล้อง Mirrorless ระดับ Flagship อย่างจอมทัพใหญ่ Canon EOS R1 กล้องเรือธงระดับสูงสุดตัวจริงรุ่นแรกของชาวไร่ขิง พวกเราชาว BIG Camera ก็เลยจัดทำบทความโพสต์นี้ขึ้นมาให้คนที่สนใจแต่ยังลังเลและคนที่อยากรู้ว่าโคตรกล้องความเร็วแสงรุ่นนี้มันมีอะไรเจ๋ง ๆ ซ่อนอยู่กันบ้าง เอาล่ะครับ ไปครับ เราไปดูกันเลยดีกว่า ว่ากล้องเกรียงไกรแห่งไร่ขิงตัวนี้มันมีดีอะไรซ่อนอยู่กันบ้าง
ถ้าคุณเป็นอีกคนที่อยากครอบครองกล้องความเร็วแสง Canon EOS R1 ตัวนี้ มาร่วมกัน Be ONE with Mastery. No Lag! Blackout-Free! Unlimited Buffer! ด้วยกันที่ร้าน BIG Camera กว่า 160 สาขาทั่วประเทศ หรือที่ BIG Camera ออนไลน์ สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม >> Canon EOS R1
สำหรับกล้อง Mirrorless ความเร็วแสงระดับ Flagship อย่าง Canon EOS R1 มันคือกล้องที่ถูกออกแบบมาเพื่อการไปให้ถึงขีดสุดของงานสาย Speed Action โดยเฉพาะ ทุกความโดดเด่นและทุกฟังก์ชันของกล้องรุ่นนี้จึงถูกอัดประสิทธิภาพในด้านความเร็ว, การตอบสนอง และความแม่นยำ รวมถึงระบบการใช้งานระดับมืออาชีพมาแบบเน้น ๆ เพื่อไม่ให้จังหวะไหน ๆ หรือ Moment ใด ๆ ผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์จับต้องไม่ได้
เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของระบบโฟกัส ปริมาณบัฟเฟอร์ อาการ Rolling Shutter Effect ไปจนถึงเซ็นเซอร์ใหม่และชิปประมวลผลใหม่ ทั้งหมดทั้งมวลล้วนแล้วแต่ถูกรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อการส่งข้อมูลปริมาณมหาศาลด้วยความเร็วสูงสุดขีด ภายใต้แนวคิดที่จะทุบทำลายทุกขีดจำกัดของความเร็วและแม่นยำให้ทรงพลังเหนือล้ำยิ่งกว่าที่เคยมีมา และนี่คือความเจ๋งของกล้องรุ่นนี้ที่พวกเราชาว BIG Camera รวมมาไว้ให้ในโพสต์นี้
ชิปประมวลผลความเร็วสูงแบบ Twin Drive
นอกจากที่กล้อง Canon EOS R1 จะมีชิปประมวลผลระดับ Top สูงสุดอย่าง DIGIC X ที่จะใช้กันแค่ในกล้องระดับ High-End ของค่ายเท่านั้น นี่ยังเป็นครั้งแรกของ Canon บน Mirrorless Era ที่มีการใช้งานชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุด DIGIC Accelerator ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อให้ทำงานร่วมกันกับชิปรุ่น DIGIC X แบบ Twin Drive (ขอเรียกแบบนี้ก็แล้วกันนะครับ)
โดยชิปประมวลผลใหม่ DIGIC Accelerator นี้มันถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการส่งข้อมูลปริมาณมหาศาลด้วยความรวดเร็วสูงสุด จนส่งผลให้ระบบโฟกัสในกล้อง Canon EOS R1 ทรงพลังเหนือล้ำยิ่งกว่ากล้องรุ่นไหน ๆ ก่อนหน้านี้ของ Canon ไม่ว่าจะเป็นความฉลาดล้ำในการตามจิกจดจำ รวมถึงความแม่นยำในการแยกแยะเป้าหมาย ไปจนถึงความไวในการตอบสนอง และความสามารถในการจัดการสัญญาณรบกวนเมื่อใช้ค่าความไวแสง (ISO) สูง
ซึ่งการมาของชิปประมวลผลตัวนี้ล่ะครับ ที่มันทำให้สิ่งหนึ่งในกล้อง Canon EOS R-Series เปลี่ยนไปอย่างมหาศาล .. ระบบโฟกัสความเร็วแสงที่โคตรล้ำ และปริมาณบัฟเฟอร์อันมหาศาล ด้วยความทรงพลังของชิปประมวลผลใหม่ DIGIC Accelerator และ DIGIC X ที่ทำงานร่วมกันแบบ Twin Drive ทำให้กล้อง Canon EOS R1 มีระบบโฟกัสใหม่ ส่วนมันจะมีชื่อเรียกว่าอะไร และมีความอะไรบ้าง เลื่อนไปดูคำตอบกันต่อพร้อม ๆ กันได้เลยครับ
ชุดโฟกัสแบบ Cross-type AF และระบบ Dual Pixel Intelligent AF
ชุดโฟกัสแบบ Cross-type AF จำนวน 4,368 จุด 1,053 โซน และระบบ Dual Pixel Intelligent AF มีความโดดเด่นในด้านการจดจำ Priority สามารถลำดับความสำคัญของ Priority และเปลี่ยนตำแหน่งจุดโฟกัสตามได้โดยอัตโนมัติ ด้วยความไวในการตอบสนองและความแม่นยำที่สูงมากแม้มีสิ่งกีดขวางในจังหวะที่ยากจะคาดเดา รวมถึงมีความสามารถในการตรวจจับโฟกัสแยกแยะเป้าหมายได้อย่างหลากหลาย ที่สำคัญก็คือแม้จะเป็นวัตถุขนาดเล็ก หรือวัตถุที่อยู่บนพื้นผิวที่มีลวดลายซับซ้อน มันก็ยังสามารถจับโฟกัสได้อย่างแม่นยำ
สามารถเลือกเน้น Priority ที่ต้องการได้ทั้งมนุษย์ สัตว์ นก และยานพาหนะ และยังสามารถเลือกให้ลึกลงไปได้ว่าจะเลือกเน้นส่วนไหนเป็นพิเศษไม่ว่าจะเน้นดวงตา ใบหน้า ส่วนหัว หรือลำตัว นอกจากนี้ยังสามารถจับโฟกัสได้อย่างแม่นยำแม้ในสภาพแสงน้อยอย่างที่ไม่เคยมีกล้องรุ่นไหนในตระกูล Canon EOS R-Series ทำได้มาก่อน โดยกล้อง Canon EOS R1 จะสามารถจับโฟกัสในที่แสงน้อยได้มืดถึง -7.5EV เลยทีเดียว แสงน้อยระดับ -5EV นี่ก็ถึงขั้นมองไม่เห็นลายมือตัวเองแล้วนะ นี่มืดกว่านั้นร่วม 1.5 เท่าก็ยังจับโฟกัสได้ มันจะโหดเกินไปแล้ว
Action Priority
Action Priority เป็นฟังก์ชันพิเศษที่สามารถวิเคราะห์และจดจำการเคลื่อนไหวของวัตถุอย่างรวดเร็วได้ด้วยความแม่นยำที่สูงมาก จนสามารถติดตามวัตถุได้อย่างเหนียวแน่นแม้จะมีสิ่งกีดขวางอื่นตัดผ่านหน้ากล้องในช่วงเวลาระหว่างเกมกีฬาที่คาดเดาได้ยากว่าจะเกิดอะไรขึ้น อีกทั้งมันยังสามารถจดจำเป้าหมาย และลำดับความสำคัญของเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนตำแหน่งจุดโฟกัสตามได้โดยอัตโนมัติอีกด้วย อธิบายง่าย ๆ คือกล้อง Canon EOS R1 จะเลือกจับโฟกัสที่ผู้เล่นที่ครองบอลอยู่กับตัวเป็นหลัก และในทันทีที่เกิดการต่อบอล หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้บอลเคลื่อนที่จากผู้เล่นคนหนึ่งไปยังผู้เล่นอีกคนหนึ่ง กล้อง Canon EOS R1 จะทำการเปลี่ยนตำแหน่งโฟกัสให้เราเองโดยอัตโนมัติทันทีตามการส่งบอล โดยในตอนนี้ (วันที่ 12/11/2024) กล้อง Canon EOS R1 จะสามารถใช้ฟังก์ชัน Action Priority เพื่อเปลี่ยนตำแหน่งจุดโฟกัสตามการเคลื่อนที่ของบอลได้โดยอัตโนมัติ ในกีฬา 3 ประเภท คือ ฟุตบอล, บาสเกตบอล และวอลเลย์บอล
Register People Priority
สำหรับ Register People Priority เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันพิเศษสำหรับใช้จดจำใบหน้าที่ต้องการเน้นเป็นพิเศษได้พร้อมกันสูงสุดถึง 10 ใบหน้า แถมยังสามารถ Custom จัดลำดับความสำคัญของแต่ละใบหน้าได้อีกด้วย ที่สำคัญคือจะยกกล้องขึ้นมาถ่ายแล้วเลือกให้กล้องจดจำ หรือจะเลือกให้กล้องจดจำใบหน้านั้นไว้จากไฟล์ที่มีอยู่ก็ได้ แน่นอนครับว่าเราสามารถ Save ข้อมูลชุดใบหน้านั้นแยกเอาไว้เป็นชุด แล้ว Load เข้ามาใช้งานก็ได้ด้วย นึกภาพตามดูสิว่าในการถ่ายภาพเกมส์กีฬา เราใช้งานฟังก์ชันนี้ช่วย มันจะช่วยให้เราทำงานได้ง่ายขนาดไหนกัน
ครั้งแรกของกล้องถ่ายภาพที่มีการใช้โครงข่ายประสาทเทียม
ข้อนี้เล่นเอาอึ้งไปเลยไปเลยใช่ไหมล่ะ แต่คุณไม่ได้กำลังฝันไปและนี่มันคือเรื่องจริง ใช่ครับ กล้อง Canon EOS R1 เป็นกล้องที่มีการนำเอาโครงข่ายประสาทเทียม หรือ Neural Network Technology มาใช้ในการรีดเร้นประสิทธิภาพของอัลกอริธึมการเรียนรู้เชิงลึก และมันส่งผลให้เกิดเป็นฟังก์ชันพิเศษใหม่ 2 ฟังก์ชัน อันได้แก่ Neural Network In-Camera Upscaling และ Neural Network Noise Reduction โดยการใช้อัลกอริธึมการเรียนรู้เชิงลึกเพื่อเพิ่มความละเอียดหรือลดสัญญาณรบกวนในภาพ ซึ่งฟังก์ชันที่น่าสนใจมาก ๆ ก็คือ Neural Network In-Camera Upscaling เพราะมันมีข้อดีต่างจากการทำ Pixel Shift High Resolution ทั่ว ๆ ไป ที่ถ้าหากมีการเคลื่อนไหวในเฟรมภาพขณะที่เรากำลัง Pixel Shift High Resolution มันอาจจะส่งผลทำให้เกิดการการประมวลผลไฟล์ภาพที่ไม่สมบูรณ์ขึ้นมาได้ เพราะการทำ Pixel Shift High Resolution จะใช้หลักการขยับเซ็นเซอร์เพื่อเพิ่มข้อมูลสีในไฟล์ภาพ นั่นหมายความว่าถ้าบังเอิญในเฟรมขณะนั้นมันมีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นก็จะมีโอกาสเกิดอาการเบลอขึ้นบริเวณนั้นได้เช่นกัน
แต่ Neural Network In-Camera Upscaling ของกล้อง Canon EOS R1 มันต่างออกไป มันจะใช้พลังจากชิปประมวลผลแล้วอัดเพิ่มความละเอียดลงไปในไฟลภาพที่เราถ่ายมาแล้วจากในโดยตรงเลย ซึ่งวิธีนี้มันจะช่วยลดปัญหาการเกิดอาการเบลอจากการเคลื่อนไหวของวัตถุในเฟรมภาพลงไปได้ด้วย (ถ้าเราคุมสปีดชัตเตอร์ได้พอดีนะครับ)
อันที่จริงแล้วเทคโนโลยี Neural Network นี้ Canon ไม่ได้เพิ่งมาเริ่มใช้กันในปีนี้นะครับ แต่มันถูกปล่อยออกมาแล้วตั้งแต่ปี 2023 ให้พวกเราเอาไปใช้งานกันบน Digital Photo Professional โดยมี System Requirements ขั้นต่ำของระบบปฏิบัติการอยู่ Windows 10 64 บิต หรือ Windows 11 CPU ขั้นต่ำ Intel Core i7 และ RAM 16 GB ขึ้นไป ... ใช่ครับ แต่วันนี้เราเอามาใช้ได้บนกล้อง Canon EOS R1 ได้แล้ว
ระบบ Eye-Control AF ที่ตอบสนองได้อย่างลื่นไหลมากขึ้น
Eye-Control AF เป็นฟังก์ชันเปลี่ยนตำแหน่งการจับโฟกัสตามการชำเลืองมอง เผยโฉมออกมาครั้งแรกในปี 1992 บนกล้องฟิล์ม Canon EOS 5 และถูกคืนชีพให้กลับมาวาดลวดลายอีกครั้งในปี 2021 บนกล้อง Canon EOS R3 ซึ่งก็สร้างความประทับใจในการตอบสนองเอาไว้อย่างน่าทึ่งเลยทีเดียว แต่การกลับมาของ Eye-Control AF บนกล้อง Canon EOS R1 มันต่างออกไป
สามารถพูดได้เลยว่านี่คืออีกขั้นของ Eye-Control AF เพราะมันถูกพัฒนาอัปเกรดไปอีกระดับให้มีความลื่นไหลในการใช้งาน และสามารถตอบสนองได้อย่างแม่นยำว่องไวมากขึ้น ที่สำคัญคือทำได้ถึงขั้นสามารถเปลี่ยนตำแหน่งการจับโฟกัสได้แม้ในขณะกด Half-Press Shutter กันเลย ทำให้การใช้งาน Eye-Control AF บนกล้อง Canon EOS R1 มีความหลากหลายยืดหยุ่นและพร้อมตอบโจทย์สถานการณ์ต่าง ๆ มากยิ่งขึ้นไปอีก
Rolling Shutter Effect ที่น้อยมากจนแทบสัมผัสไม่ได้
ข้อนี้แทบไม่ต้องพูดอะไรมากเลยครับ ตอนรุ่นก่อนก็ว่าทำได้ดีมากแล้ว พอมาถึงรุ่นนี้ ทั้งกล้อง Canon EOS R1 มีทั้งเซ็นเซอร์แบบใหม่และชิปประมวลผลใหม่แบบคู่ ใส่มาให้แบบจัดเต็ม การประมวลผล การส่งข้อมูล รอบการทำงานของเซ็นเซอร์ บอกเลยว่ามันแทบจะไปสู่สุดขีดสุดขอบของความไวแสงแล้ว
และนอกจากที่เล่ามาทั้งหมด ปริมาณ Buffer อันมหาศาลก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของกล้อง Canon EOS R1 เช่นกัน ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซลที่ความเร็วในการบันทึกภาพต่อเนื่อง 12fps บน Mechanical Shutter (สูงสุด 40fps บน Electronic Shutter) ซึ่งมาพร้อม Buffer กว่า 1,000 ภาพ JPEG/RAW (Electronic Shutter 500 JPEG/230 RAW) ใช่ครับ กดชัตเตอร์ค้างไว้ได้นานสูงสุดกว่า 83 วินาที ทำให้ไม่ว่าจะเป็นจังหวะที่ต่อเนื่องว่องไวแค่ไหนก็ยากจะพลาด และในขณะบันทึกวิดีโอก็ยังสามารถบันทึกภาพนิ่งได้ที่ความละเอียดสูงสุด 17 ล้านพิกเซล
ในส่วนของงานวิดีโอเองก็ไม่ได้น้อยหน้าใครเลยนะ เพราะสามารถบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงได้ถึงระดับ 6K/60fps Raw Video มาตรฐานเดียวกันกับกล้องในสายงานภาพยนตร์มืออาชีพ รองรับโปรไฟล์สี C-Log 2 และ C-Log 3 และยังมีไฟล์วิดีโอแบบใหม่ XF-AVC S และ XF-HEVC S ที่ไฟล์จะมีขนาดเล็กลงแต่สูญเสียคุณภาพไปเพียงน้อยนิด แม้แต่กันสั่นเทพ IBIS แบบ 5 แกนเองก็อัปเกรดจนสามารถชดเชยสปีดชัตเตอร์ได้สูงสุดถึง 8.5 สตอป เมื่อใช้งานร่วมกันกับระบบกันสั่นในเลนส์
บอดี้ดีไซน์เองก็มาพร้อมผิวสัมผัสรอบบอดี้กล้องแบบใหม่ ช่วยเพิ่มแรงหนืดในการจับถือกล้องให้มีความกระชับจับได้ถนัดมือมากขึ้น พร้อมด้วยซีลกันฝุ่นและละอองน้ำที่แน่นหนาทนทานมั่นใจได้ และระบบระบายความร้อน Cooling System ใหม่เพื่อการทำงานที่ต่อเนื่องยาวนาน
บอกได้ว่าจัดเต็มสมศักดิ์ศรีกล้องเกรียงไกรแห่งไร่ขิงจริง ๆ และถ้าคุณเป็นอีกคนที่อยากครอบครองกล้องความเร็วแสง Canon EOS R1 ตัวนี้ มาร่วมกัน Be ONE with Mastery. No Lag! Blackout-Free! Unlimited Buffer! ด้วยกันที่ร้าน BIG Camera กว่า 160 สาขาทั่วประเทศ หรือที่ BIG Camera ออนไลน์