[PREVIEW] Leica SL3-S Moments Without Limits. “An Excellent Instrument of Creation, Seamlessly Blending Motion and Stills.”

          นับจากการมาครั้งแรกของกล้อง Leica SL-System กล้องในระบบใหม่ของกลุ่มภาคีที่รู้จักกันในชื่อ “L-Mount Alliance” ที่ถูกออกแบบมาพื่อตอบรับทุกความสร้างสรรค์ทั้งงานภาพนิ่งและงานวิดีโอในระดับมืออาชีพ ทุกอะตอม ทุกฟังก์ชัน ทุกปุ่มแป้น ล้วนแล้วแต่ได้รับการออกแบบมาเพื่อจุดมุ่งหมายในการพัฒนาให้เป็น Mount-Lens มาตรฐาน เพื่อการก้าวสู่ยุคใหม่แห่งอิสรภาพในการสร้างสรรค์งานศิลป์อย่างไร้ขีดจำกัด ด้วย Mount-Lens ที่เป็นหนึ่งเดียวกัน

          ภาคีแห่ง L-Mount นำทัพโดยอมตะกล้องที่เป็นดั่งความฝันใฝ่ และ Milestone หมุดสำคัญของตากล้องทุกคนทั่วโลกอย่าง Leica ราชา Rangefinder Digital หนึ่งเดียวตลอดกาล พร้อมด้วย Panasonic Lumix กล้องที่ Filmmaker ต่างเลือกใช้ และค่ายเลนส์เจ้าของวลี No Compromise จิตวิถีแห่งบูชิโดที่เข้มข้นไร้ปรานีต่อทุกปัจจัยเพื่อความคมชัดแบบ Edge to Edge อย่าง SIGMA เพื่อร่วมกันแบ่งปันเทคโนโลยีและสร้างความหลากหลายในทางเลือกร่วมกัน

          เป็นการเดินทางที่ใช้ระยะเวลานานถึง 10 ปี จนมาถึงปี 2025 อันเป็นปีที่กำลังจะมีการฉลองครบรอบ 100 ปีของ Leica Camera AG ในเดือนมกราคม เดือนแรกของปี เดือนแห่งความคิดถึง เดือนที่มีเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ลึกซึ้งเกี่ยวพันกันกับ Leica มาอย่างยาวนาน เดือนเดียวกันกับที่ Oskar Barnack และ Ernst Leitz II ได้มาพบกันเป็นครั้งแรก…

          กล้อง Leica SL3-S ได้มาอยู่กับเราที่นี่แล้ว และนี่คือทุกมิติของกล้องใหม่จาก Leica SL-System ที่เราสรุปมาให้ดู ว่า 10 ปีที่ผ่านมา มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง

          โดย Leica SL3-S เปิดตัวมาพร้อมเซ็นเซอร์ Full Frame แบบ BSI CMOS ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล ซึ่งการลดความละเอียดลงบนพื้นที่เซ็นเซอร์เท่าเดิม จะทำให้ Photodiode ของกล้องมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ความสามารถทางด้านการรับแสงจะทรงพลังมากกว่ากล้องความละเอียดสูง ทำให้สามารถจัดการสัญญาณรบกวน (Noise) รวมถึงให้ Dynamic Range ที่ดีกว่า ซึ่งถ้าหากความละเอียด 24 ล้านพิกเซลมันไม่สะใจล่ะก็ Leica SL3-S ยังสามารถทำ Handheld Multishot เพิ่มความละเอียดได้สูงถึง 48 ล้านพิกเซล และ 96 ล้านพิกเซลอีกด้วยนะ

          ถัดมาทางด้านระบบโฟกัสจากที่เคยใช้ระบบ Contrast Detection AF พอมาถึง Leica SL3-S ก็ได้ทำการปรับเปลี่ยนยกเครื่องกันใหม่ ไปใช้ระบบโฟกัสแบบ Hybrid ที่ทันสมัยและตอบโจทย์ได้ทุกสายงานมากยิ่งขึ้น (PDAF 779 จุดโฟกัส+Contrast Detection AF 315 จุดโฟกัส) ซึ่งระบบโฟกัสแบบ Hybrid ของกล้อง Leica SL3-S มันรองรับ Object Detection AF ที่ถูกขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผลรุ่นใหม่ Maestro IV อีกด้วย ทำให้สามารถตามจับโฟกัสวัตถุที่เคลื่อนไหวรวดเร็วได้อย่างแม่นยำตามติดอย่างน่าทึ่ง แน่นอนว่าสามารถเลือกให้โฟกัสแบบเน้นดวงตาได้ด้วย

          และไม่ว่าจะ Moment ไหน Leica SL3-S ก็พร้อมตอบสนอง ด้วย AFC Mode ที่มี Burst Shooting สูงสุดถึง 30fps สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องด้วย Buffer Memory ที่สูงถึง 8GB มาให้ ทำให้ทุกจังหวะสำคัญยากจะพลาดเป้า และเพื่อให้ทุกภาพเป็นของคุณอย่างแท้จริง กล้อง Leica SL3-S จึงมีการรองรับฟีเจอร์ CAI (Content Credantials) เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของผลงานที่แท้จริงมาให้อีกด้วย

          ทางด้านงานวิดีโอของกล้อง Leica SL3-S ก็พร้อมรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ 6K/30fps 4:2:0, 4K/60fps 4:2:2, FHD/120fps 4:2:2 และวิดีโอ HDMI-RAW 5.9K/30fps, 4.1K/60fps, 3.5K/50fps อีกทั้งยังสามารถบันทึกวิดีโอแบบ Open Gate Recording ในอัตราส่วน 3:2 และบันทึกวิดีโอในแนวตั้งได้ด้วย ส่วนคนที่ต้องการยบันทึกวิดีโอส่งตรงลง SSD ก็สามารถทำได้ผ่าน USB-C

          ในส่วนของงานบอดี้ดีไซน์ของกล้อง Leica SL3-S ก็จะมาพร้อมซีลกันละอองน้ำและฝุ่นระดับ IP54 เพื่อให้พร้อมตอบรับทุกสถานการณ์สุดท้าทาย และตอบรับได้ทุกความสร้างสรรค์และการทำงานแบบมืออาชีพ ด้วยการควบคุมกล้องที่ออกแบบตำแหน่ง Layout ของทุกปุ่มแป้นมาเป็นอย่างดี เข้าถึงง่ายแต่พลาดไปโดนยาก มอบความเรียบง่ายในการใช้งานและการตอบสนองที่ฉับไว

          ใช้ช่องมองภาพแบบ EVF ความละเอียด 5.76 ล้านจุดสีที่มี Refresh Rate สูงสุด 120fps จอหลังจากเดิมที่ขยับไม่ได้ก็เปลี่ยนมาเป็นจอหลังระบบสัมผัสแบบ Tiltable (ยก) ความละเอียด 2.3 ล้านจุดสี ที่มาพร้อม Icon และ Menu Interface ใหม่สามารถพลิกได้ตามการตะแคงกล้อง ใช้การ์ดความจำแบบ CFexpress Type B ที่ยอมรับกันว่ามีความไวและเสถียรสูงมากเป็นอันดับต้น ๆ และ UHS-II SD ซึ่งเป็นการ์ดที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน

          นอกจากนี้กล้อง Leica SL3-S ยังรองรับพอร์ต USB-C, Stereo Internal + Microphone Input 3.5mm Stereo Jack, Mono Internal + Headphones Output 3.5mm Stereo Jack และ HDMI โดยจะมีน้ำหนักตัวอยู่ที่ 768g และใช้แบตเตอรี่รุ่นใหม่ BP-SCL6 ที่มีความจุกำลังไฟสูงขึ้น

          สำหรับ Leica Lovers ที่ต้องการความยืดหยุ่น ทนทาน และการควบคุมกล้องที่จริงจังสั่งได้แบบมืออาชีพ นี่คือกล้องที่คุณไม่ควรพลาด เตรียมตัวคุณให้พร้อมแล้วมาพบกันกับ Leica SL3-S กล้องจุดแดงในแบบมืออาชีพที่เกิดมาเพื่อตอบรับทุกความสร้างสรรค์ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ ที่ BIG Camera Leica Authorized Dealer เร็ว ๆ นี้

*** จุดเด่น Leica SL3-S: Moments Without Limits. ***

• กล้อง Full Frame ในระบบ Leica SL-System (Leica L-Mount)
• เซ็นเซอร์แบบ BSI CMOS ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล
• ระบบกันสั่นแบบ IBIS 5 แกน 5 สตอป
• ระบบโฟกัสใหม่แบบ Hybrid/PDAF 779 จุด+Contrast Detection AF 315 จุด
• รองรับ Object Detection AF
• Handheld Multishot Mode 48 ล้านพิกเซล และ 96 ล้านพิกเซล
• ถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงสุด 30fps Buffer Memory 8GB
• ค่าความไวแสงกว้างตั้งแต่ ISO100 - ISO200,000 ขยายสุดที่ ISO50 - ISO200,000
• บันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ 6K/30fps 4:2:0, 4K/60fps 4:2:2, FHD/120fps 4:2:2 วิดีโอ HDMI-RAW 5.9K/30fps, 4.1K/60fps, 3.5K/50fps
• รองรับการบันทึกวิดีโอ Open Gate Recording อัตราส่วน 3:2
• ซีลกันละอองน้ำและฝุ่นระดับ IP54
• EVF ความละเอียด 5.76 ล้านจุดสี Refresh Rate สูงสุด 120fps
• จอหลังระบบสัมผัสแบบ Tiltable (ยก) ความละเอียด 2.3 ล้านจุดสี
• ใช้การ์ดความจำแบบ CFexpress Type B และ UHS-II SD
• รองรับพอร์ต USB-C, Stereo Internal + Microphone Input 3.5mm Stereo Jack, Mono Internal + Headphones Output 3.5mm Stereo Jack และ HDMI
• รองรับฟีเจอร์ CAI (Content Credantials)
• น้ำหนัก 768g ใช้แบตเตอรี่รุ่น BP-SCL6