[PREVIEW] รวมทุกเรื่องที่ต้องรู้ของ SIGMA BF: The Beauty of a Simple Thing

“ส่องจุดเด่นกล้องใหม่สไตล์ Minimal เรียบง่ายแต่ทรงพลัง”

          SIGMA BF: The Beauty of a Simple Thing การตีความใหม่ของ Uncompromising Vision เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ล้ำสมัยแต่ครบถ้วนทุกรากฐานของการถ่ายภาพ กล้อง Mirrorless ที่ผสมผสานกันระหว่างประสิทธิภาพและความเรียบง่ายอย่างลงตัว ถูกออกแบบโดยมี Camera Obscura เป็นแรงบันดาลใจ ลดสิ่งรบกวนแต่ไม่ลดทอนฟีเจอร์ มอบสัมผัสการใช้งานที่ลื่นไหล ควบคุมได้ทุกสิ่งเพียงปลายนิ้วสัมผัส

จุดเด่น SIGMA BF: The Beauty of a Simple Thing

• กล้อง Mirrorless เปลี่ยนเลนส์ได้ (L-Mount)
• Internal Memory 230GB
• เซนเซอร์ Full-Frame Back-illuminated CMOS
• ความละเอียดภาพนิ่ง 24.6 ล้านพิกเซล
• รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูง 6K/30p, 4K/30p และ FHD/120p 
• ระบบโฟกัส Phase-Detection AF + Contrast Detection AF
• ออกแบบโดยมีแรงบันดาลใจจาก Camera Obscura
• 13 Color Modes
• น้ำหนัก 446g (รวม Battery) 

          ถึงแม้ว่า SIGMA BF จะมีรูปลักษณ์ที่เรียบง่ายเป็นกล้องใหม่ในสไตล์ Minimal แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันคืองาน Craft ที่มีความประณีตสูงมาก ถึงขนาดที่ต้องเวลาเกือบ 10 ชั่วโมงในการสร้างกล้องแต่ละตัวขึ้นมาในไลน์ผลิตกันเลยทีเดียว เพราะ SIGMA BF ถูกสร้างจากการขึ้นรูปโลหะ Aluminum Alloy ทั้งก้อน จนได้เป็นบอดี้กล้องที่ไร้รอยประกบขึ้นมาแบบที่เราเห็นนั่นเอง

          สำหรับ SIGMA แล้วกล้อง SIGMA BF ไม่ใช่แค่ความท้าทายครั้งใหญ่ แต่มันยังเป็นตัวแทนการตีความใหม่ของ Uncompromising Vision ที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ล้ำสมัยแต่ครบถ้วนทุกรากฐานของการถ่ายภาพ มันถูกออกแบบขึ้นมาโดยมี Camera Obscura เป็นแรงบันดาลใจ มุ่งเน้นการลดสิ่งรบกวนแต่ไม่ลดทอนฟีเจอร์ พร้อมกับมอบสัมผัสการใช้งานที่ลื่นไหล เป็นการผสมผสานกันระหว่างประสิทธิภาพและความเรียบง่ายอย่างลงตัว

         SIGMA BF เปิดตัวมาพร้อมน้ำหนักที่เบาเพียง 446g รวม Battery และมีถึง 2 สีให้เราเลือกใช้ตามไลฟ์สไตล์ที่เราชอบ คือ สีเงินสุดสง่างาม และสีดำอันเข้มขรึมดุดัน และนี่คือกล้องรุ่นแรกที่มีระบบ Haptic Feedback ปุ่มสัมผัสแรงกด ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยลดการสึกหรอ พร้อมกับให้สัมผัสที่แม่นยำและการตอบสนองที่ดีไม่ต่างจากปุ่มกลไกแบบดั้งเดิม และเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการจับถือลก้องให้กระชับจับถนัดมือมากขึ้น ที่บริเวณด้านข้างบอดี้ฝั่งขวาก็เลยมีการเซาะร่องสร้างพื้นผิวสัมผัสกันลื่นขึ้นมาให้เราด้วย

          One-Hand Operation หลบไปเลย One Finger to Rule Them All. มาแล้ว เพราะนี่คือกล้องที่ถูกออกแบบการวางตำแหน่งเลย์เอาท์ของปุ่มแป้นบนตัวบอดี้มาเป็นอย่างดี มอบสัมผัสการควบคุมที่ง่ายตั้งค่าสบายเพียงปลายนิ้วขยับ ไม่ใช่แค่ควบคุมด้วยมือเดียว แต่มันคือการควบคุมทุก Settings ด้วยนิ้วเดียว

          ด้วยบอดี้ดีไซน์ใหม่ที่เรียบง่ายสไตล์ Minimal ของ SIGMA BF ทาง SIGMA จึงจัดเลนส์สีใหม่ มาให้เรา Mix and Match จับคู่เลนส์รูปลักษณ์ใหม่ในธีมสีเงินสุดเท่ที่ ณ ตอนนี้ถูกออกแบบมาสำหรับกล้อง L-Mount เท่านั้น ซึ่งทั้ง 9 เลนส์นั้นเป็นเลนส์ SIGMA I Series ที่ประกอบด้วยเลนส์ SIGMA 17mm f4 DG Contemporary, 20mm f2 DG Contemporary, 24mm f2 DG Contemporary, 24mm f3.5 DG Contemporary, 35mm f2 DG Contemporary, 45mm f2.8 DG Contemporary, 50mm f2 DG Contemporary, 65mm f2 DG Contemporary และ 90mm f2.8 DG Contemporary

          กล้อง SIGMA BF เป็นกล้องที่มีดีไม่ใช่แค่งานบอดี้ดีไซน์เท่านั้น แต่ทั้งไฟล์ภาพนิ่งและวิดีโอก็ตอบโจทย์ทุกโทนอารมณ์ที่เราต้องการด้วยเช่นกัน ตัวกล้องมาพร้อมความสามารถในการรองรับโปรไฟล์สีวิดีโอ L-Log ทำให้เราสามารถนำไฟล์วิดีโอที่บันทึกไปเกรดสีเติมโทนที่เราชอบได้ตามต้องการ พร้อมด้วย Color Modes ที่มีมาให้ใช้ถึง 13 แบบ ซึ่งแต่ละโทนบอกเลยว่าโดนใจไม่น้อยเลยล่ะครับ

          เห็นว่าเป็นกล้องเบา ๆ ตัวเล็ก ๆ แบบนี้ แต่ SIGMA BF ก็เป็นถึงกล้องสมาชิกใหม่ในภาคี L-Mount Alliance (กล้อง Mirrorless เปลี่ยนเลนส์ได้) ที่ใช้เซนเซอร์ขนาด Full-Frame แบบ Back-illuminated CMOS เลยนะ และความสามารถตามสเปคชีทก็เรียกว่าไม่น้อยหน้าใครเลย กับไฟล์ภาพนิ่งความละเอียด 24.6 ล้านพิกเซล และงานวิดีโอความละเอียดสูงถึงระดับ 6K/30p, 4K/30p และ FHD/120p ครบถ้วนเพรียบพร้อมตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการ

          ระบบโฟกัสของกล้อง SIGMA BF เป็นแบบ Hybrid AF (Phase-Detection AF + Contrast Detection AF) แน่นอนว่าพอเป็น Hybrid AF มันก็จะต้องมาพร้อมความแม่นยำฉับไวในการโฟกัสที่สามารถตอบสนองได้ทุกจังหวะมากกว่าแบบ Contrast Detection AF อย่างแน่นอน ส่วนมันจะแม่นยำขึ้นมากแค่ไหน ตอบสนองได้ตามใจสั่งเพียงใด รอชมรีวิวเต็ม ๆ กันอีกทีนะครับ เร็ว ๆ นี้ล่ะ

          ถึงแม้ว่า SIGMA BF จะไม่สามารถใส่การ์ดความจำ (Memory Card) ได้ แต่ก็มีความจำภายในตัวเครื่องมาให้ใช้ถึง 230GB สามารถบันทึกภาพไฟล์ JPG ได้มากถึง 14,000 ภาพ หรือบันทึกภาพไฟล์ RAW ได้มากถึง 4,300 ภาพ และถ้าหากเอาไปบันทึกวิดีโอก็จะสามารถบันทึกได้นานรวมกันถึง 150 นาทีเลยทีเดียวล่ะ ต่อให้ใส่การ์ดไม่ได้ก็ยังเอาไปใช้งานได้แบบชิวๆ

         เอาล่ะครับก็จบกันไปอีกหนึ่งบทความ สรุปมาให้อ่านกันคร่าว ๆ ไว ๆ ทำความเข้าใจกับกล้องใหม่กันก่อนวันเปิดราคาประกันศูนย์ไทย ส่วนใครที่กำลังรอชมรีวิวเต็ม เร็ว ๆ นี้นะ ที่ช่อง bigcameratv บน YouTube กดติดตามกันไว้ได้เลย