Everything You Need to Know About Memory Card “คู่มือมือใหม่ Memory Card Guide อย่าเพิ่งซื้อ Memory Card ถ้ายังไม่รู้เรื่องนี้”

Everything You Need to Know About Memory Card “คู่มือมือใหม่ Memory Card Guide อย่าเพิ่งซื้อ Memory Card ถ้ายังไม่รู้เรื่องนี้”
17/12/24
7 view(s)
Everything You Need to Know About Memory Card “คู่มือมือใหม่ Memory Card Guide อย่าเพิ่งซื้อ Memory Card ถ้ายังไม่รู้เรื่องนี้”

          เชื่อไหมครับ? ว่าการเลือก Memory Card ให้เหมาะกับการใช้งานเป็นเรื่องที่สำคัญมากพอ ๆ กับการเลือกใช้เลนส์ให้เหมาะกับสถานการณ์เลยทีเดียวนะครับ เพราะ Memory Card คือสิ่งที่ทำหน้าที่บันทึกไฟล์ของเราเอาไว้ และหนึ่งในปัญหาไฟล์เสียหายที่พบเจอกันบ่อย ๆ ก็มาจากการเลือกใช้ Memory Card ที่ไม่เหมาะสมกับการใช้งานนี่เองล่ะ

          ซึ่งไม่ว่าจะเป็นไฟล์งานหรือไฟล์ส่วนตัวของเรา เราก็ไม่อยากให้มันต้องเสียหายไปใช่ไหมล่ะ เพราะช็อตเด็ดจังหวะสำคัญที่ผ่านไปแล้วมีเงินสิบล้านก็ย้อนเวลาไปซื้อมันกลับมาไม่ได้หรอกนะ เพราะฉะนั้นวันนี้พวกเราชาว BIG Camera เลยจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ Memory Card พร้อมแชร์เทคนิคการเลือกซื้อ Memory Card กันครับ เอ้า ไปครับ เราไปดูกันเลย

          อย่างที่เรารู้กันดีว่า Memory Card หรือการ์ดความจำ เป็นสิ่งที่มีไว้เพื่อใช้ที่เก็บบันทึกไฟล์ข้อมูลต่าง ๆ โดยความสามารถของ Memory Card จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ Read Speed (R) และ Write Speed (W) ซึ่งความสามารถในส่วน Read Speed ก็จะมีความหมายตรงตัวเลย คือเป็นความเร็วในการอ่าน บ่งบอกความสามารถในการอ่านข้อมูลเพื่อแสดงผล มีผลโดยตรงต่อความเร็วและความไหลลื่นในการเปิดไฟล์ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ

          ส่วน Write Speed หมายถึงความเร็วการเขียน เป็นความสามารถในด้านการบันทึกข้อมูลนั่นเองครับ ยิ่งตัวเลขของ Write Speed เยอะ Memory Card ใบนั้นก็จะมีความสามารถในการส่งข้อมูลปริมาณมหาศาลได้ดีกว่า Memory Card ที่มี Write Speed ต่ำ ความสามารถหลัก ๆ ของ Memory Card ก็จะมีอยู่ 2 ส่วนนี้ ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็มีมากมายหลากหลายแบบให้เลือกใช้กัน และบนกล่องและบนตัวของ Memory Card แต่ละใบ มันจะมีการระบุข้อมูลความสามารถของมันลงไปอย่างชัดเจนในรูปของสัญลักษณ์ต่าง ๆ

          แล้วทีนี้เราจะรู้ได้ยังไงล่ะว่า Memory Card แต่ละใบ มันมีความสามารถในการเขียน/อ่านข้อมูลระดับไหน? ... ป้ะ ไปกันต่อเลย ตามมาทางนี้เลยครับ

          สำหรับการดูความสามารถของ Memory Card อันดับแรกสุดคือการดูที่เลขคลาสของ Memory Card นั่นเองครับ คลาสของ Memory Card จะมีสัญลักษณ์เป็นตัวเลขที่อยู่ในตัวอักษร C ใช้บอกความเร็วขั้นต่ำในการเขียนข้อมูลแบบหยาบ ๆ เป็น MB/s (เมกะบิตต่อวินาที) ให้กับเราได้

          เช่น Memory Card คลาส 4 ก็จะมีความเร็วขั้นต่ำในการเขียนข้อมูล 4MB/s ส่วน Memory Card คลาส 10 ก็จะมีความเร็วขั้นต่ำในการเขียนข้อมูล 10MB/s เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันที่ยังพบเห็นกันได้ก็มีเพียงแค่ Memory Card คลาส 10 เท่านั้น เนื่องจากการพัฒนาทางเทคโนโลยีของกล้องเติบโตอย่างต่อเนื่องมาไกลมาก ทำให้ความละเอียดของภาพนิ่งและวิดีโอในปัจจุบันสูงจน Memory Card ที่ต่ำกว่าคลาส 10 ไม่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อีกต่อไปนั่นเอง

          ถัดมาที่สัญลักษณ์ตัวเลขที่อยู่ในตัวอักษร U ที่เป็นสัญลักษณ์แสดง UHS Speed Class โดยจะมีแค่ U1 กับ U3 ซึ่ง U1 จะมีความเร็วในการเขียนข้อมูลขั้นต่ำที่ 10MB/s ส่วน U3 จะอยู่ที่ 30MB/s เลยทีเดียวครับ

          และอีกอันที่สามารถใช้ดูความเร็วในการเขียนข้อมูลแบบหยาบ ๆ ได้อีกก็คือ Video Speed Class ที่มีสัญลักษณ์เป็นตัวอักษร V ติดกับตัวเลข 6, 10, 30, 60 และ 90 ที่เห็นกันบ่อย ๆ ก็จะเป็น V30, V60 และ V90 ตัวเลขข้างหลังตัวอักษร V คือความเร็วเป็น MB/s ซึ่งวิธีอ่านก็เหมือนกันกับเลขคลาสเลยครับ เช่น Memory Card V30 ก็คือการ์ดความจำที่มีความเร็วในการเขียนข้อมูลขั้นต่ำที่ 30MB/s และถ้าเป็น V90 ก็จะมีความเร็วในการเขียนข้อมูลขั้นต่ำที่ 90MM/s นั่นเอง

          และจุดสุดท้ายที่จะบอกความสามารถของ Memory Card ให้กับเราได้ก็คือพนักงานขายนั่นเองครับ (ฮา) หยอก ๆ สุดท้ายคือสเปคบนกล่องต่างหากล่ะ ซึ่งข้อนี้มันจะบอกเราอย่างชัดเจนเลยว่า Memory Card ใบนั้น ๆ มันมีอัตราความเร็วในการเขียน/อ่านข้อมูลเท่าไหร่ บนหน้ากล่อง Memory Card ทุกใบจะมีเขียนเอาไว้ให้เห็นเป็นตัวเลขชัด ๆ เลยว่า “Speed Up To ×××MB/s” แต่บังเอิญว่าตัวเลขพวกนั้นมันคือความเร็วในการอ่านข้อมูลนะครับ ไม่ใช่ความเร็วในการเขียนข้อมูล

          ซึ่งถ้าอยากรู้ว่าการ์ดความจำใบนั้นมันเขียนได้ไวแค่ไหน ทางเดียวคือเราจะต้องพลิกหลังกล่องไปดูกันเอาเองโดยให้ดูที่ Write Speed ของการ์ดใบนั้นครับ (แต่ก็มีการ์ดความจำบางรุ่นเหมือนกันที่มีค่า Write Speed ของการ์ดโชว์อยู่ทั้งบนกล่องและบนตัวการ์ดเลย) เพียงเท่านี้ก็จะทราบแล้วว่าการ์ดไปนั้นมีอัตราความเร็วในการเขียนข้อมูลเท่าไหร่กันแน่

          เป็นยังไงบ้างครับ มาถึงตรงนี้คงเริ่มเข้าใจกันแล้วใช่ไหมว่าทำไม Memory Card คลาส 10 เหมือนกันพอเอามาอัดวิดีโอแบบ HD บางใบมันกระตุกแต่บางใบกลับไม่กระตุก นั่นก็เพราะความเร็วในการเขียนข้อมูลของมันไม่เท่ากันนั่นเองครับ ซึ่งโดยปกติแล้วความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลของการบันทึกวิดีโอแบบ 4K นั้นจะต้องใช้ความเร็วขั้นต่ำในการเขียนข้อมูลที่ 60MB/s และสำหรับระดับความคมชัดที่ FHD ก็จะต้องใช้ถึง 30MB/s

         แต่ถ้าจะให้ดีแนะนำว่าลองเช็คค่า MB/s ในการถ่ายวิดีโอที่ระดับความละเอียดต่าง ๆ ของกล้องตัวนั้น แล้วเลือกใช้การ์ดความจำที่มีค่าความเร็วในการเขียนข้อมูลที่ครอบคลุมจะดีกว่าครับ แบบนั้นตรงประเด็นและตอบโจทย์ความต้องการอย่างแน่นอน

         เอาล่ะครับ ทีนี้ก็เลือกใช้กันได้ถูกแล้วนะครับ เผื่อเหลือเผื่อขาดเราก็จัด Memory Card แบบตัวโหด ๆ เทพ ๆ ไปเลยก็ดี จะได้ไม่ต้องมาเจ็บใจที่พลาดช็อตเด็ด ๆ ไปเพราะการ์ดคำนวณไม่ทัน ช็อตเด็ดที่ผ่านไปแล้วน่ะมีเงินก็ซื้อกลับมาใหม่ไม่ได้นะครับ สำหรับคนที่สนใจอยากได้การ์ดความจำดี ๆ แวะมานะ ที่ร้าน BIG Camera กว่า 160 สาขาทั่วประเทศ แล้วเจอกันครับ

          เมื่อซื้อกล้องที่ BIG CAMERA รับสิทธิพิเศษเหนือใครเพิ่ม 9 ต่อ ร่วมลุ้นเป็น 1 ใน 15 ท่านผู้โชคดี กับแคมเปญสุดยิ่งใหญ่แห่งปี BIG CAMERA BIG Bonus 2024

 

ร่วมทริปท่องเที่ยวถ่ายภาพ Fashion Photo Workshop สุด Exclusive ณ ประเทศโปรตุเกส 7 วัน 4 คืน ร่วมด้วยนักแสดงสาวมิ้นท์ รัญชน์รวี และ ช่างภาพมืออาชีพระดับท็อปคลาสของไทย พี่จอร์จ-ธาดา วารีช ที่จะพาคุณเปิดโลกการถ่ายภาพแฟชั่นระดับมืออาชีพ สร้างสรรค์แฟชั่นเซทสุดอลังการ พร้อมทั้ง การสอนถ่าย Landscape วิวทิวทัศน์อันงดงามในดินแดนแห่งเสน่ห์ตะวันตกของประเทศโปรตุเกสกับ คุณกอล์ฟ-กันตพัฒน์ พฤฒิธรรมกูล แห่งเพจ กอล์ฟมาเยือน สำหรับลูกค้าที่ซื้อสินค้าที่ร้าน BIG CAMERA กว่า 160 สาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ - 15 ม.ค. 68

 

 

ติดตามความเคลื่อนไหวและเนื้อหาน่าสนใจอื่นๆ ได้ที่   https://www.bigcamera.co.th

 

#BIGCamera ศูนย์รวมกล้องดิจิตอลที่มีความสุขให้เลือกมากที่สุด

     #โฟกัส..ให้ลึกถึงตัวตน เริ่มต้นที่ Big Camera

บทความ ก่อนหน้านี้:

หมวดหมู่สินค้า