สวัสดีครับ กลับมาเจอกันอีกแล้ว ในที่สุดวันนี้ “Leitz สาระ” ของเราก็เดินทางมาถึงองก์ที่ 5 กันแล้ว และที่จะเอามาเล่าให้ฟังกันในวันนี้ก็คือเรื่องของ Leica Brassing นั่นเองครับ อาจจะฟังดูเหลือเชื่อแต่ตำนานกล้องอย่าง Leica ที่มีความประณีตทนทานเหนือกาลเวลาเป็นอัตลักษณ์ประจำตัวนี่ล่ะครับ แต่ในอีกมุมหนึ่ง Leica Brassing กลับกลายเป็นเสน่ห์อันน่าหลงใหลไปเสียอย่างนั้น ขนาดที่ว่ามีนักสะสมและ Leica Lovers หลายคนยอมควักจ่ายในราคาที่สูงขึ้นเพื่อกล้อง Leica ที่เกิด Brassing กันเลยก็มีนะ
….……..
อยากรู้แล้วใช่ไหมล่ะ ว่า Leica Brassing มันคืออะไร?
….……..
วันนี้เราจะไปค้นหาคำตอบนั้นด้วยกันครับ
….……..
เพราะว่าทุกตำนานของ Leica มีเรื่องเล่า เราเลยอยากส่งต่อ
….……..
จุดกำเนิดของตำนาน Leica Brassing เกิดขึ้นในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากเพื่อให้มีความแข็งแรงทนทานเหนือชั้นกว่ากล้องอื่น ๆ กล้องของ Leica ในยุคนั้นทั้งหมดจึงล้วนแต่ใช้วัสดุของ Top Plate และ Base Plate เป็นทองเหลืองแท้แล้วเคลือบสีหรือชุบโครเมียมทั้งสิ้น โดยที่ในตอนนั้นก็คงไม่มีใครคิดเลยว่าในอนาคตข้างหน้านับจากนี้อีกหลายสิบปี วัสดุของ Top Plate และ Base Plate ที่เป็นทองเหลืองแท้ของกล้อง Leica เหล่านี้นี่ล่ะ ที่มันจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของอารยะธรรมงานศิลป์ที่นักสะสมและ Leica Lovers ต่างหมายปอง
อย่างที่เคยมีคนพูดกันว่าแม้แต่ปณิธานและอุดมการณ์ สิ่งใด ๆ ในโลกนี้ล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ไม่ว่าจะถูกสร้างขึ้นมาให้มีทนทานแค่ไหนกล้อง Leica เองก็หนีไม่พ้นคำพูดนี้เหมือนกัน แต่ใครจะไปคิดกันล่ะว่ารอยถลอกลอกร่อนของสีที่เคลือบและโครเมียมที่ชุบฉาบเนื้อทองเหลืองแท้นี้ มันจะไม่ได้ถูกมองว่าเป็นการสึกหรอ เพราะสำหรับนักสะสมและ Leica Lovers แล้ว การเกิด Brassing คือ “บันทึกของประวัติศาสตร์และการเดินทาง” ที่ถูกแสดงอยู่บนบอดี้กล้อง Leica อย่างชัดเจน เป็นลวดลายงานศิลป์ที่ถูกเขียนขึ้นจากลายเซ็นประจำตัวตากล้องที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลกเท่านั้น และจะแตกต่างกันไปตามอัตลักษณ์ในการใช้งานและความผูกพันธ์กับกล้องของตากล้องแต่ละคน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่ากล้อง Leica ที่เกิดการ Brassing มันสวยคลาสสิคสะกดสายตาจริง ๆ นั่นล่ะ
ใช่ครับ Leica Brassing เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นจากการหลุดลอกของสีที่ถูกฉาบเคลือบอยู่บนบอดี้กล้อง Leica จากการใช้งานจนเผยให้เห็นเนื้อทองเหลืองแท้ที่ซ่อนอยู่ภายในนั่นเอง โดย Leica Brassing จะเกิดขึ้นแค่เพียงในกล้อง Leica รุ่นที่ใช้วัสดุของ Top Plates และ Base Plate เป็นทองเหลือง เช่น Leica MP หรือ Leica M-A เท่านั้น มีทั้งแบบที่เกิดเองตามธรรมชาติจากการใช้งาน และแบบที่ถูกทำขึ้นมาจากฝีมือของ Leica Lovers สายขัด
“นอกเหนือจากนั้นแม้ว่าจะนับเป็น “ร่องรอยของการเดินทาง” แต่ก็ไม่นับเป็น Leica Brassing ตามความหมายดั้งเดิมที่รอยหลุดลอกของสีจะเผยให้เห็นเนื้อทองเหลืองแท้ของกล้อง”
โดยกล้อง Leica Brassing รุ่นที่โด่งดังมาก ๆ ก็คือ Leica M6 ซึ่งเป็นกล้อง Leica รุ่นที่ถูกใช้งานกันอย่างกว้างขวางในสายงานสารคดี ว่ากันว่า Brassing ของกล้อง Leica รุ่นนี้จะมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่สามารถแสดงถึงร่องรอยการเดินทางของกล้องออกมาได้อย่างหมดจดงดงาม ทำให้เป็นหนึ่งในกล้อง Leica ที่ได้รับความนิยมในกลุ่ม Leica Lovers ที่ชื่นชอบหลงใหลใน Leica Brassing
และจากความหลงใหลใน Leica Brassing ของ Leica Lovers นี้เองล่ะครับ ที่ทำให้ครั้งหนึ่งถึงกับมีการผลิตกล้องชุดพิเศษ Leica M-P “Correspondent” Edition ที่ถูกออกแบบโดย Lenny Kravitz ศิลปินชื่อดังชาวอเมริกันที่มีอิทธิพลทั้งในด้านดนตรีและศิลปะ เจ้าของผลงานเพลงโคตรดังอย่าง “Fly Away” (แต่ผู้เขียนชอบเพลง Again มากกว่านะ) ซึ่งในชุดจะประกอบด้วยกล้อง Leica M-P (Typ 240) ที่ Top Plates ถูกตกแต่งให้มีลวดลาย Brassing แล้วหุ้มตัวกล้องด้วยหนังงู พร้อมด้วยเลนส์ Leica Summicron-M 35mm f2 ASPH และ Leica Summilux-M 50mm f1.4 ASPH สุดท้ายคือเคสหนังงูและสายคล้องกล้อง ซึ่งมันถูกผลิตขึ้นมาเป็นจำนวนจำกัดเพียง 125 ชุดทั่วโลกเท่านั้น เป็นแรร์ไอเทมที่ Leica Lovers หลายคนอยากครอบครอง
ในปัจจุบันแม้ว่ากล้อง Leica จะมีการนำเอาวัสดุที่มีความแข็งแกร่งทนทานเทียบเท่ากันกับทองเหลืองมาใช้ในการผลิตกล้องหลาย ๆ รุ่น แต่ก็ยังมีการรักษาอัตลักษณ์ของ Top Plates ที่เป็นทองเหลืองเอาไว้ในบางรุ่นอยู่เหมือนกันครับ
ส่วนหนึ่งก็เพื่อเคารพต่อความเป็นมาและประวัติศาสตร์ของ Leica เอง และอีกส่วนหนึ่งก็เพื่อให้ Leica Lovers ได้สัมผัสกับเสน่ห์เฉพาะตัวแห่งกาลเวลานั่นเอง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Leica M-P Series อย่างเช่น Leica M10-P และ M11-P นี่ล่ะครับที่ยังมี Top Plates เป็นทองเหลืองในรุ่น Silver Chrome Finish อยู่ ทำให้สามารถเกิด Brassing ขึ้นมาได้เหมือนกัน
และอีกรุ่นที่อยากจะแนะนำสำหรับ Leica Lovers ที่หลงใหลในมนต์ขลังของ Leica Brassing ก็คือ Leica M11 Glossy Black Edition. ที่เพิ่งเปิดตัวไปนี่ล่ะครับ ซึ่งความพิเศษของกล้องรุ่นนี้ก็คือสีดำเงา Glossy Black ที่ถูกฉาบเคลือบอยู่บน Top Plates ทองเหลืองนั้นมันออกแบบมาให้สามารถเกิด Brassing ได้อย่างคลาสสิคสวยงาม ให้ลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์และสะท้อนเรื่องราวของตัวกล้องออกมาอย่างมีเสน่ห์ ซึ่งสีดำเงา Glossy Black ของกล้อง Leica M11 Glossy Black Edition. นี้มันเป็นสีดำเงาวาววับสีเดียวกันกับกล้อง Leica M3 จากปี 1962 ด้วยนั่นเองครับ
ก็เรียกว่าเป็นมนต์ขลังที่มีเสน่ห์น่าหลงใหลไม่น้อยเลยทีเดียวนะ เพราะกล้องที่แกร่งทนทานอย่าง Leica การจะเกิด Brassing ขึ้นมาได้นี่จะต้องใช้ความพยายามและเวลามาก ๆ เลยล่ะครับ แล้วก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากล้อง Leica ที่เกิดการ Brassing มันสวยคลาสสิคสะกดสายตาจริง ๆ นั่นล่ะ
สำหรับคนที่สนใจอยากสัมผัสกับมนต์เสน่ห์แห่ง Leica Brassing เร็ว ๆ นี้มาพบกันกับ Leica M11 Glossy Black Edition. ที่ BIG Camera Leica Authorized Dealer กันนะครับ เพราะประกายของสีดำ Glossy Black ที่เงาวาววับ จะยิ่งสะกดจับทุกสายตาเมื่อตัวตนภายในถูกเผยออกมาผ่าน Leica Brassing