เลือกซื้อกิมบอลให้ตอบโจทย์การใช้งาน

27/06/22
121 view(s)
เลือกซื้อกิมบอลให้ตอบโจทย์การใช้งาน

สำหรับใครที่เข้าวงการถ่ายวิดีโอ ต้องรู้จักไม้กันสั่นหรือกิมบอล เป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยให้งานวิดีโอมีความสมูทมากขึ้น เพราะถ้าถือกล้องถ่ายเองแบบ Handheld มือคนเราจะมีการสั่น โยก ไปตามแรงสั่นสะเทือนต่าง ๆ ทั้งการเดิน วิ่ง เคลื่อนไหว หรือแม้กระทั่งตอนอยู่ยืนอยู่เฉย ๆ ก็ยังไม่นิ่งเลย ทำให้เวลาถือถ่ายแบบ Handheld โอกาสที่จะทำให้ภาพเบลอ หรือสั่นก็จะตามมา

ถึงแม้ว่ากล้องบางรุ่นจะมีกันสั่นให้ก็ตาม เรียกว่าก็ช่วยได้บ้าง แต่ถ้าใช้กิมบอลควบคู่ไปด้วย ภาพเคลื่อนไหวก็จะออกมาลื่นไหลมากขึ้น กิมบอลเลยเกิดขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์สายงานวิดีโอ เพราะการถือกล้องแบบ Handheld หรือการใช้ขาตั้งกล้อง จะไม่ตอบโจทย์ ก็เลยได้มีการพัฒนาตัวกิมบอลกันสั่นขึ้นมา นอกจากจะกันสั่น และทำให้ภาพสมูทแล้ว ยังช่วยให้ครีเอทมุมมองการถ่ายวิดีโอแบบใหม่ ๆ ได้ด้วย

Handheld กล้องด้วยมือเปล่า

Cr. cottonbro

ใช้กิมบอล

Cr. Pressmaster

กิมบอล (Gimbal) คืออะไร

กิมบอล (Gimbal) คือ อุปกรณ์ที่มีมอเตอร์ 2 หรือ 3 แกนหมุนอิสระในตัว ใช้กับกล้องหลากหลายแบบ ทั้ง Compact, Mirrorless และ DSLR เป็นอุปกรณ์เสริมที่เข้ามาช่วยเรื่องความนิ่งของกล้อง ควบคุมกล้องไม่ให้สั่นไหว เพื่อตอบโจทย์การถ่ายการเคลื่อนไหว นอกจากจะใช้ในกองถ่ายแล้ว Filmmaker, Youtuber หรือ Vlogger ก็นิยมเอามาใช้กันมากขึ้น

อย่าง Youtuber หรือ Vlogger ที่ทำคอนเทนต์ลงแพลตฟอร์มต่าง ๆ ก็ไม่ต้อง Handheld หรือถือกล้องด้วยมือเปล่า เพราะการถือกล้องด้วยมือเปล่ายากมาก แม้ว่าในกล้องบางตัวจะมีระบบกันสั่นมาให้ แต่ก็ยังมีข้อผิดพลาดบ้าง การที่มีกิมบอลเข้ามาช่วย ทำให้การสร้างวิดีโอหรือครีเอทคอนเทนต์ง่ายขึ้นมากจริง ๆ

ส่วนการใช้กิมบอล แค่ถือถ่ายก็ได้เลยหรอ ? ต้องบอกว่าไม่ใช่ เพราะจริง ๆ ต้องมีการเซต / ตั้งค่า บาลานซ์กิมบอลกับกล้องก่อนการใช้งาน ต้องเรียนรู้ปุ่ม และคอนโซลการคอนโทรลต่าง ๆ ว่า มีการใช้งานอย่างไร กดปุ่มไหน กล้องจะหันไปทิศที่ต้องการ

 

การทำงานของกิมบอล

กิมบอลจะมีทั้งแบบ 2 แกน และกิมบอล 3 แกน ความแตกต่าง คือ กิมบอลแบบ 2 แกนจะมีมอเตอร์ 2 ตัว ส่วนใหญ่จะเป็นกิมบอลสำหรับสมาร์ทโฟน จะเคลื่อนไหวได้เพียง 2 ทิศทาง แต่ในปัจจุบันแบบ 2 แกน ก็แทบจะไม่ค่อยมีแล้ว อย่างของสมาร์ทโฟนก็จะพัฒนาให้มี 3 แกน เพื่อตอบโจทย์การทำงานมากขึ้น

กิมบอล 2 แกน

ส่วนกิมบอลสำหรับกล้องจะเป็นกิมบอล 3 แกนจะมีมอเตอร์ 3 ตัวในการควบคุม และจะเคลื่อนไหวได้ 3 ทิศทางตามแกน X,Y,Z ซึ่งในแต่ละแกน จะมีแกนควบคุมการเคลื่อนไหวแยกตามทิศทางของตำแหน่งกล้อง คือ แกน Roll, แกน Pitch และแกน Yaw

กิมบอล 3 แกน

กิมบอล 3 แกน DJI RS 3, Zhiyun Weebill 3, Zhiyun CRANE M3, Zhiyun Smooth Q4, Zhiyun Smooth 5, Zhiyun Weebill 2 Pro+, DJI OM 5, DJI OM 4SE, Zhiyun Weebill 2, DJI Ronin RSC2, DJI RONIN RS 2, Zhiyun Tech CRANE 3 LAB, Zhiyun CRANE 2S

 

- Roll เอียงหมุนกล้อง เพื่อให้ภาพหมุนวน

- Pitch การหันกล้องในทิศทางขึ้นลง ระหว่างพื้น - ท้องฟ้า

- Yaw หันกล้องไปด้านข้างในทิศทาง จากซ้าย - ขวา

และแน่นอนอยู่แล้วกิมบอล 3 แกน จะเป็นที่นิยมมากกว่า เพราะตอบโจทย์การครีเอทคอนเทนต์ และได้มุมมองที่หลากหลาย สำหรับใครที่อยากถ่ายวิดีโอ แล้วกำลังหามุมมอง หรือการมูฟกล้องไปในทิศทางที่น่าสนใจ สามารถเข้าไปดูได้ที่ 7 Basic Movements สำหรับการถ่ายวิดีโอให้ออกมาน่าสนใจ

 

การเลือกใช้กิมบอลให้ตอบโจทย์การใช้งาน

การเลือกใช้กิมบอลให้ตอบโจทย์การใช้งาน เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะกิมบอลแต่ละตัว ไม่สามารถใช้กับกล้องได้ทุกตัว จะมีกิมบอลขนาดเล็ก-กลาง-ใหญ่ ที่จะใช้กับกล้องแต่ละขนาดที่แตกต่างกัน มีทั้งแบบกิมบอลที่ใช้กับสมาร์ทโฟน, มิลเลอร์เลส หรือกล้องโปร ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นตามลำดับ

ซึ่งแต่ละตัวก็จะมีสเปคการรับน้ำหนัก (Payload) กล้องที่แตกต่างกัน สมมติว่ากิมบอลรับน้ำหนักได้ประมาณ 1kg แต่กล้อง+เลนส์ของเรา มีน้ำหนักเกือบ 2kg ก็จะใช้งานไม่ได้ หรือถ้าใช้งานได้ ก็จะไม่สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ

 

กิมบอลต้องรองรับกล้องที่มีอยู่

ก่อนอื่นเลย สิ่งที่ต้องดูก่อนเลือกใช้งาน คือ กิมบอลต้องรองรับกล้องที่มีอยู่ เน้นตัวใหญ่ ๆ ไว้เลย เพราะถ้าซื้อไปแล้วไม่รองรับ ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะจะไม่สามารถใช้งานได้ ถึงแม้ว่าจะเอาไปติดตั้งบนกิมบอล หมุนลงล็อคทุกอย่างแล้ว แต่จะไม่สามารถควบคุม หรือคอนโทรลผ่านกิมบอลได้เลย

ดังนั้นไปดูว่ากิมบอลนั้น รองรับกล้องและเลนส์ตัวไหนบ้างได้ที่เว็บไซต์ official ถ้ามีข้อมูลที่แมทช์กันก็สามารถใช้งานร่วมกันได้

EX. DJI RS 3 เข้าหน้าเว็บไซต์ official กดรุ่นที่ต้องการ แล้วให้ดูที่ Camera & Lens Compatibility จากนั้นเว็บไซต์ก็จะแบ่งตามแบรนด์ และบอกชื่อรุ่นที่สามารถใช้งานร่วมกับกิมบอลได้

หรือว่าจะต้องมีอุปกรณ์เสริมที่ต้องซื้อเพิ่มเติม เพื่อให้กล้องสามารถใช้งานกับตัวกิมบอลได้ ซึ่งอันนี้เป็นเงื่อนไขแรกเลย ที่ต้องดูก่อนไปดูในส่วนอื่น ๆ

 

เลือกกิมบอลให้เข้ากับรูปแบบงาน

การเลือกใช้งาน จะขึ้นอยู่กับว่างานวิดีโอที่อยากได้ จะออกมาในรูปแบบไหน เป็นงานที่ไม่ได้มีมุมกล้องเยอะมาก ค่อนข้างฟรี ไม่ซีเรียสมาก เป็นการเก็บฟุตธรรมดาไม่ต้องมีลูกเล่นอะไรมากมาย ก็จะเลือกใช้กิมบอล 2 แกนได้ ด้วยความที่ 2 แกน ตัวกิมบอลจะเล็ก น้ำหนักน้อย ทำให้การถือถ่ายสบายยิ่งขึ้น

แต่ในเคสที่ต้องการความ Professional อยากได้งานเนี๊ยบ ๆ และซีเรียสกับภาพวิดีโอที่ได้ ก็จะใช้กิมบอล 3 แกน เพื่อให้ได้มุมมองภาพที่หลากหลาย และใช้งานได้เต็มรูปแบบ

 

เลือกใช้กิมบอลตามกล้อง+เลนส์ที่มี สัมพันธ์กับการที่ผู้ใช้รับน้ำหนักได้เท่าไหร่ ?

การรับน้ำหนักของกิมบอลแต่ละรุ่น จะดูได้จาก Specification ทีอยู่ในเว็บไซต์กิมบอลตัวนั้น ๆ ว่าสามารถรองรับกล้องประเภทไหนได้บ้าง ขนาดไม่เกินเท่าไหร่ กิมบอลรับน้ำหนักกล้องได้เท่าไหร่ ซึ่งในเว็บของสินค้าตัวนั้น ๆ จะมีบอกครบ และยิ่งตัวไหนที่รับน้ำหนักกล้องและเลนส์ได้มาก ตัวกิมบอลก็จะมีขนาดใหญ่ขึ้นและน้ำหนักมากขึ้นตามไปด้วย

นอกจากจะดูสเปคว่ากิมบอลแต่ละตัวสามารถรองรับน้ำหนักกล้อง+เลนส์ได้เท่าไหร่แล้วก็ต้องดูด้วยว่ากิมบอลที่เลือกใช้มีน้ำหนักเท่าไหร่ ซึ่งถ้าบวกกับน้ำหนักกล้องกับเลนส์ของเราแล้ว เราสามารถถือถ่ายได้จริงมั้ยเพราะตอนใช้งานจริง เราต้องรับน้ำหนักทั้งหมดทั้งกล้อง เลนส์และอุปกรณ์เสริมต่างๆ

EX. DJI RS 3 กิมบอลรับน้ำหนักได้ 3 กิโลกรัม และกิมบอลมีน้ำหนัก 126 กรัม

 

ความจุแบตเตอร์รี่

ความจุแบตเตอร์รี่อาจจะไม่ใช่เรื่องสำคัญมากในการตัดสินใจซื้อกิมบอลซัก 1 ตัว เพราะในปัจจุบัน กิมบอลแต่ละแบรนด์ และแต่ละรุ่น จะมีความจุแบตเตอร์รี่ที่ใกล้เคียงกัน คือ แต่ละแบรนด์จะคิดมาแล้ว เพื่อตอบโจทย์การถ่ายวิดีโอ และสำหรับใครที่ไม่ได้ไปหน้าร้าน แต่หาข้อมูลในเน็ตก่อน ก็สามารถดูสเปคได้ที่หน้าเว็บไซต์ของรุ่นนั้น ๆ เลย ส่วนใหญ่จะใช้คำว่า Max Battery Life

แต่ที่ต้องรู้ไว้ เพื่อแพลนวางเวลาการทำงาน หรือการถ่ายทำ ว่าตัวกิมบอลสามารถใช้งานได้เท่านี้ เราก็จะสามารถวางซีนที่ต้องการใช้กิมบอลได้ และเป็นไปตามต้องการ

จากที่บอกไปว่าถึงแม้กล้องและเลนส์เกือบทุกตัวในปัจจุบันจะมีกันสั่นใส่มาให้ ซึ่งถ้าใช้กับงานที่ไม่ซีเรียสมาก ก็อาจจะได้ แต่ถ้าต้องการให้งานดูเป็นมืออาชีพ ก็แนะนำให้ใช้กิมบอล และการเลือกใช้กิมบอลก็ขึ้นอยู่กับว่ากิมบอลตัวนั้นรองรับกล้องที่มีอยู่มั้ย การใช้งานต่าง ๆ มุมมองที่อยากครีเอท รวมไปถึงการรับน้ำหนักของตัวกิมบอล กล้องและเลนส์ เชื่อว่าในตอนนี้มีกิมบอลที่ออกมาตอบโจทย์งานมากมายให้เลือกใช้ สำหรับใครที่ต้องการกิมบอลไว้ใช้งานซักตัว ก็สามารถนำคำแนะนำเหล่านี้ไปใช้กันได้

บทความ ก่อนหน้านี้:
บทความ ถัดไป:

หมวดหมู่สินค้า